4 ข้อดี ของการทำงานเป็น Programmer แบบ Outsource contract

ใครว่าทำงานเป็น Programmer แบบ Outsource contract ไม่ดี ไม่เวิร์ก ไม่มั่นคง บอกเลยว่าไม่จริง เพราะการทำงานเป็น Programmer แบบ Outsource คือเส้นทางที่ช่วยสร้างประสบการณ์และความมั่นคงได้อย่างเร็วจนน่าทึ่ง โดยเริ่มต้นจากข้อดีทั้ง 4 อย่างนี้!

1. เงินเดือนสูงกว่าพนักงานประจำ 

อย่างที่เล่าในบทความ “คุณรู้ไหม ทำไมบริษัทถึงจ้าง Outsource ทั้งๆที่รุ้ว่าจ่ายประจำเงินเดือนถูกกว่า” จะเห็นว่าบริษัทยอมจ่ายเงินค่าจ้างให้ Outsource ค่อนข้างสูงมาก และมักจะสูงกว่าพนักงานประจำ เพราะมีความยืดหยุ่นกว่า เสี่ยงน้อยกว่า เลยจ่ายได้มากกว่า

2. สัญญาที่แน่นอน

ปกติแล้วการจ้าง Outsource จะทำเป็นสัญญาจ้างระบุระยะเวลาที่แน่นอนไปเลย เช่น 6 เดือน หรือ 1 ปี มีวันที่เริ่มงานและจบงาน แถมยังระบุค่าจ้างไว้ชัดเจนด้วย จึงไม่ต้องห่วงว่าจะถูกเลิกจ้างกลางคัน เว้นแต่คุณจะทำผิตกฎของบริษัท ไม่งั้นก็อาจโดนไล่ออกได้ และ Outsource ยังไม่มีช่วงทดลองงาน 3 เดือนอีกด้วย 

นอกจากนี้บริษัทที่สามารถจ่ายเงินจ้าง Outsource มักเป็นองค์กรขนาดใหญ่ เมื่อเจอเหตุการณ์อย่าง COVID-19 จึงได้รับผลกระทบน้อยกว่า หรือต่อให้เจอเหตุไม่คาดฝันจริง ๆ ก็ยังมีศักยภาพมากกว่า Software House ขนาดเล็กที่อาจมีสภาพคล่องไม่สูงจนต้องจำใจให้พนักงานประจำ Leave without pay หรืออาจทำงานเท่าเดิมแต่ลดเงินเดือนแทน แต่ Outsource ก็ยังได้รับเงินและทำงานตามสัญญาเช่นเดิม 

3. ปรับฐานเงินเดือนแบบก้าวกระโดด

การขึ้นเงินเดือนที่ไวที่สุดคือการย้ายงานครับ หากว่าคุณทำงานประจำและรอให้เงินขึ้นทุกปี เชื่อเถอะว่าเงินที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้เยอะมากมายจนทำให้ใจเต้นสักเท่าไร สมมติว่างานประจำเงินเดือน 20,000 บาท ขึ้นปีละ 10% ซึ่งเป็นตัวเลขสมมติที่เกินจริงไปสักหน่อย บางแห่งอาจให้ไม่เกิน 5% ด้วยซ้ำ ต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะแตะตัวเลข 50,000 บาท ลองดูตารางด้านล่างได้เลยครับ   

ปีที่ทำงานรายได้ต่อเดือน
120,000.00
222,000.00
324,200.00
426,620.00
529,282.00
632,210.20
735,431.22
838,974.34
942,871.78
1047,158.95
1151,874.85


โอโห้ คุณต้องใช้เวลาถึง 11 ปีเลยเงินเดือนถึงแตะที่ 50,000 บาท แต่สำหรับ Outsource แล้ว บางคนใช้เวลาเพียง 4-5 ปีก็เรียกเงินเดือนครึ่งแสนได้สบาย ๆ ยิ่งเก่งเท่าไรก็ยิ่งมีอำนาจต่อรองมากเท่านั้นด้วย

นั่นเป็นเพราะว่า Outsource ได้เปรียบตั้งแต่เงินเดือนเริ่มต้นที่สูงกว่างานประจำ และเมื่อหมดสัญญาจ้างซึ่งส่วนมากมักระบุไว้ 1 ปี ก็ย้ายไปทำงานที่อื่น แล้วยังเรียกเงินเดือนเพิ่มได้สูงขึ้นกว่าเดิมอีก ยกตัวเองให้เห็นชัด ๆ ดังนี้ 

  • ปีที่ 1 สตาร์ตที่ 22,000-25,000 บาท 
  • ปีที่ 2 ค่าตัวจะอยู่ประมาณ 32,000-35,000 บาท เพราะมีประสบการณ์การทำงานแล้ว
  • ปีที่ 3 ค่าตัวอัพขึ้นไปเป็น 38,000-43,000 บาท จากประสบการณ์การทำงานมาแล้ว 2 ปี 2 แห่ง ครั้งนี้อาจจะทำนานหน่อย ทำสัก 2 ปี
  • ปีที่ 5 คุณมีประสบการณ์แน่น ๆ ถึง 4 ปีแล้ว และไม่ใช่ระดับ Junior อีกแล้ว เงินเดือนก็จะพุ่งไปที่ 45,000-55,000 บาทได้เลย  

นอกจากเปลี่ยนงานแล้วก็ต้องฝึกฝนความสามารถด้วยเช่นกัน ไม่งั้นต่อให้ย้ายบ่อยแค่ไหน แต่หากไม่เก่งจริง ก็ไม่อาจต่อรองเงินเดือนสูง ๆ ได้อยู่ดี 

4. ประสบการณ์การทำงานหลากหลาย

การเป็น Outsource ทำให้คุณต้องเปลี่ยนงานสม่ำเสมอ เพราะสัญญาจ้างมักระบุเวลา 1 ปี ทำให้คุณมีโอกาสสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และหลากหลายอยู่เสมอ (อ้างอิงจากข้อ 3) แต่ขอเน้นว่าหากย้ายงานทุก 1 ปีจะดูดีกว่า เพราะดูเป็นการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่ถ้าย้ายบ่อยทุก 3 เดือนอาจดูไม่ดี กลายเป็นคนไม่อดทน ไม่สู้งานแทน

ประสบการณ์ที่มากกว่าดีอย่างไร ขอยกตัวอย่างเทียบกันให้เห็นชัด ๆ ดังนี้

คนที่ 1 ทำงานที่โรงงานผลิตพลาสติก xxx ขนาดใหญ่มา 3 ปี ทำระบบทุกอย่างภายในโรงงาน 

คนที่ 2 มีประสบการณ์การทำงาน 3 ปีเช่นกัน แต่หลากหลายกว่า ดังนี้

  • ปีที่ 1 ทำที่ ปตท. ทำระบบขนส่งน้ำมันทั่วประเทศ ระบบคลังน้ำมัน ฯลฯ
  • ปีที่ 2 ทำที่ AIS ทำระบบ CMS ทำระบบขายบัตรเติมเงิน ฯลฯ
  • ปีที่ 3 ทำที่ KBTG ทำระบบ Trade Finance ทำระบบสินเชื่อให้ธนาคารกสิกร 

คุณคิดว่าใครมีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่ากัน ใครมีโอกาสได้งานมากกว่ากัน และใครเรียกค่าตัวได้มากกว่ากันครับ คงต้องเป็นคนที่ 2 ใช่มั้ยล่ะครับ แม้ระยะเวลาทำงานเท่ากัน แต่คนที่ 2 กลับทำงานหลายที่กว่าในหลายประเภทธุรกิจ จึงมีโอกาสมากกว่า ที่สำคัญคือบริษัทใหญ่ ๆ มักมีเงินมากพอจ้าง Outsource ราคาสูง และงานของบริษัทเหล่านั้นมักท้าทายและเสริมสร้างประสบการณ์ได้ดีมาก ๆ ด้วย 

หากคุณเป็น Outsource contract programmer อายุ 22-35 และเก่งจริง !

คุณทำงานหาประสบการณ์ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่เมื่ออายุ 35 ขึ้นไปก็ควรเปลี่ยนจาก Outsource เป็นงานประจำ ซึ่งตอนนั้นคุณจะมีประสบการณ์หลากหลายและมีความรู้ความเข้าใจธุรกิจระดับมหาชนแล้ว การเปลี่ยนเป็นไปทำงานประจำก็ไม่ใช่เรื่องยาก ตำแหน่งก็จะไม่อยู่แค่ Junior หรือ Senior ด้วย แถมเงินเดือนก็คงกระโดดไปมากกว่า 150,000 บาทแล้ว 

เห็นมั้ยครับว่าข้อดีทั้ง 4 อย่างนี้ที่เริ่มจากการเป็น Programmer แบบ Outsource จะช่วยสร้างเส้นทางการทำงานที่ดีได้จริง ทั้งเงิน ประสบการณ์ และท้ายสุดคือตำแหน่งดี ๆ ในบริษัทที่มีรากฐานดี ๆ และคงปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยครับว่านี่คือความมั่นคงที่คุณกำลังมองหาอยู่… 

Leave a Reply